พิชัย ถิ่นสันติสุข (Pichai Tinsantisuk) ประธานกลุ่มบริษัท ราชาอีควิปเมนท์ จำกัด และ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย E-mail : tinsuntisook@yahoo.com แชร์ 9 ปี ก้าวกระโดด พลังงานทดแทน ส.อ.ท. POSTED ON - คำพังเพยคนโบราณที่ว่า “ชอบกินของขม ชอบชมเด็กสาว ชอบเล่าเรื่องเดิม” หมายถึง คนแก่วันนี้ คนแก่วัดจะมาเล่าเรื่องเดิมเพื่อเสริมปัญญาในการเดินหน้าเรื่องดีๆ เรียนรู้ข้อผิดพลาดในอดีต ไม่โง่ซ้ำสอง จะมาเล่าเรื่องของพลังงานทดแทนใน ส.อ.ท. ว่าเริ่มมาอย่างไร จุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหน ในภาวะที่มีแต่รัฐบาลรักษาการเพียงลำพัง วิสัยทัศน์ของประธาน ส.อ.ท. คนใหม่ที่ย้ำเรื่องของสิ่งแวดล้อม ผนวกกับประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน “เหล้าเก่าในขวดใหม่” คงยังไม่เพียงพอที่จะนำพาพลังงานทดแทนไปสู่เป้าหมาย หากขาดทีมงานและความร่วมมือของสมาชิก ส.อ.ท. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนได้รวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อน โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน” (Renewable Energy Industry Club) ด้วยการผลักดันของสมาชิกระดับบิ๊กๆ เช่น กลุ่มบริษัทมิตรผล, กันยง ฯลฯ วันนั้นยังจำได้ดีว่าแทบจะไม่มีใครรู้จักคำว่า “พลังงานทดแทน” แม้แต่กรรมการบริหาร ส.อ.ท. ในขณะนั้น...ยังบอกว่าพลังงานเหลือเฟือ ตั้งกลุ่มไปทำไม ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อ 9 ปีที่แล้ว พลังงานทดแทนราคาสูงมาก เช่น Solar cell ก็แพงจนไม่คุ้มค่าการลงทุน หรือว่า “ส.อ.ท. อาจไม่จำเป็นต้องมีกลุ่มนี้ก็ได้ ใครจะผลิตไฟฟ้าก็ไปเป็นสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตไฟฟ้าฯ ก็แล้วกัน” ดังนั้น กว่าจะตั้งกลุ่มได้ก็ใช้เวลานานถึง 6 เดือน มาถึงวันนี้กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนเติบโตแข็งแรง พร้อมจะเดินหน้าไปพร้อมกับทุกนโยบายของภาครัฐ ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง เป็นแกนนำให้สมาชิก ส.อ.ท. ภารกิจปัจจุบันของกลุ่มฯ ถ้าจะยืมคำพูดติดปากท้ายรถบรรทุกมาอ้างก็คงต้องบอกว่า “อะไรก็กู” - ไฟไหม้บ่อฝังกลบ...ทำไมไม่เอาขยะไปผลิตโรงไฟฟ้า RDF? - โรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังแย่ขาดทุน เชื้อเพลิงแพง - โซลาร์หลังคา ทำไมต้องไปวิ่ง รง.4 รู้ไหมอายต่างประเทศเขา - ไม้ยูคาฯ จะเอาไว้ใช้ผลิตเยื่อกระดาษให้พวกเราใช้ในประเทศ ทำไมจึงส่งออกไปเผาเป็นเชื้อเพลิงที่เมืองนอก - ทำไมไม่รู้จักช่วยพลังงานชุมชนบ้าง มีแต่ CSR ทำจริงๆ มีไหม? - โรงไฟฟ้าชีวมวลแอบเติมถ่านหินเกินกว่าสัญญา - น้ำมันปาล์มไว้ทอดปลา บางครั้งขาดตลาด...เอาไปผลิตไบโอดีเซลหรือเปล่า? - ไฟไหม้บ่อหมัก Biogas อีกแล้ว - และอีกมากมายที่สายตรงมาที่กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เพื่อสมาชิกและเครือข่ายพลังงานทดแทน เราจึงได้ตั้งคลินิกพลังงานทดแทนขึ้นเพื่อให้บริการ โดยมีสโลแกนว่า “ทุกคำถามมีคำตอบ ทุกปัญหามีทางออก” โดยมีคณะกรรมการและคณะที่ปรึกษาช่วยกันตอบ ผู้ถามมีสิทธิ์สอบถามได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งชื่อหรือธุรกิจของท่านเองก็ได้ (เป็นคลินิกนิรนาม) หากเกรงว่าจะเกิด Conflict of Interest เนื่องจากอยู่ในธุรกิจเดียวกัน จากบทเรียนวัยเตาะแตะ ประมาณปี พ.ศ.2549 กระแสการส่งเสริมพืชน้ำมันสบู่ดำ (Jatropha) ซึ่งมีการปลูกมากอยู่แล้วในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในครั้งนั้นสบู่ดำจากภาคอีสานถูกภาครัฐและเอกชนช่วยกันอาบน้ำผัดแป้งใส่น้ำหอมฝรั่งจากประเทศมหาอำนาจทางยุโรป กลายเป็นพืชความหวังและความฝันของใครๆ ในสมัยนั้นที่อยากจะเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันบนดิน ภาครัฐนำโดยรัฐมนตรี ภาคเอกชนนำโดยบริษัทข้ามชาติในวงการน้ำมัน มีการส่งเสริมการปลูก แต่ไม่มีตลาดรองรับ เคราะห์กรรมจึงตกเป็นของผู้ลงทุนและเกษตรกร ซึ่งมีบางคนถึงกับต้องหนีหนี้ไปอยู่ต่างประเทศ บางคนก็ล้มละลาย ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนซึ่งทำงานร่วมกับภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพลังงานพลอยได้รับผลกระทบไปด้วยซากปรักหักพังในสมัยนั้น ยังเป็นตราบาปในใจของพวกเราหลายคน แล้วหากถามว่า จริงๆ แล้ว "สบู่ดำ" (Jatropha) คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่? คำตอบยังเป็นสีเทาๆ ผู้ที่ตอบว่า “ไม่คุ้มค่าการลงทุน” คือภาครัฐ เนื่องจากไม่มีการอุดหนุนใดๆ นอกจากสนับสนุนให้ปลูก ถ้าไม่คุ้มค่าจริงๆ แล้วเหตุใดปัจจุบันยังมีการปลูกอยู่อีกไม่น้อย อีกทั้งในแผนการส่งเสริมพลังงานทดแทน AEDP ก็ยังมีชื่อของสบู่ดำอยู่ ใครอยากรู้เรื่องมากกว่านี้ สามารถอ่านในบทความของกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนเรื่อง “สบู่ดำกับหญ้าเนเปียร์ ต่างกันที่นโยบายรัฐ” ได้ สู่บทบาทในวัยเติบโต พลังงานทดแทนเชิงพาณิชย์จริงๆ มีอยู่ 7 ธุรกิจ คือ (1) พลังงานลม (2) พลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ (3) พลังงานชีวมวล (4) พลังงานก๊าซชีวภาพ (5) พลังงานขยะ (6) เอทานอล และ (7) ไบโอดีเซล ถ้าจะพูดว่าความหลากหลายคือความสวยงาม กับความหลากหลายของพลังงานทดแทนในเมืองไทย อาจยังไม่ค่อยตรงนัก อันเนื่องจากลักษณะธุรกิจและเป้าหมายของแต่ละอุตสาหกรรมไม่ค่อยสอดคล้องกัน และในบางกรณีก็ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน ขอสรุปเป็นหัวข้อย่อยๆ กับบทบาทปิดทองหลังพระของกลุ่มฯ ดังนี้ ● ให้ความรู้และความจริงกับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เป็นมุมมองของภาคเอกชน ● ร่วมกันเป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ● ให้ความรู้และข้อมูลด้านการลงทุนกับสมาชิกและเครือข่าย ● ร่วมวิเคราะห์แผนการลงทุนเบื้องต้นให้สมาชิกโดยไม่คิดมูลค่า ● ร่วมต่อรองกฎระเบียบและแนวนโยบายของภาครัฐ ● ช่วยกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ ● ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางประสานงานของภาคเอกชนอย่างแท้จริง เพื่อสมาชิก เครือข่าย และประเทศไทย ● ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ เช่น ใน AEC รวมทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ก้าวต่อไปในวัยเต่งตึง กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนพร้อมจะผลักดัน 7 ธุรกิจสู่เป้าหมาย ไม่ว่าการเมืองไทยจะไปในทิศทางใด พูดง่ายๆ ว่า RE ไทยจะ Go Inter เริ่มจาก AEC ก่อนจะเป็นไร นอกจากการรวมตัวเพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงานด้าน RE แล้ว กิจกรรมเร่งด่วนในปีนี้ยังประกอบด้วย 1. พลังงานลม ส่งเสริมให้มีการลงทุนใน 3 จังหวัดภาคใต้ พัฒนาอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ให้เป็น “เบตงกรีนซิตี้” ร่วมกับโครงการหลวง 2. พลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ ส่งเสริมให้สถาบันการเงินยอมรับการลงทุนจากภาคเอกชนโดยไม่ต้องอาศัยการอุดหนุนจากภาครัฐในด้านการลงทุน โดยรัฐหันมาอำนวยความสะดวกด้านใบอนุญาตแบบ “One Stop Service” แทน 3. พลังงานจากชีวมวล ส่งเสริมตลาดส่งออก Biomass Pellet ขนานไปกับโรงไฟฟ้าชีวมวล สำหรับ Wood Pellet เน้นตลาดมาก่อน Marketing Oriented 4. พลังงานจากก๊าซชีวภาพ ส่งเสริมการนำขยะอินทรีย์มาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นและเพิ่มการผลิตจากก๊าซชีวภาพจากการปลูกไม้โตเร็ว เช่น หญ้าเนเปียร์ 5. พลังงานขยะ ส่งเสริมให้ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ RDF และลดการฝังกลบทั้งขยะชุมชนและขยะอุตสาหกรรม (Zero Landfill) 6. เอทานอล เร่งการใช้เอทานอลในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้เป็น E-20 และ E-85 7. ไบโอดีเซล ให้เพิ่มเป็น B-7 ในยามปกติและ B-10 ในยามที่ปาล์มล้นตลาด พร้อมทั้งส่งเสริมพืชน้ำมันตัวใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ พลังงานทดแทนตามแผน AEDP จะสวยหรูและไปได้ไกลเพียงใดอยู่ที่การส่งเสริมจากภาครัฐ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมอ่าน “FIT ชี้ชะตาพลังงานทดแทนไทย” จากเครือข่ายของเรา ชาว RE : Renewable Energy FIT : Feed-in Tariff หมายถึง การอุดหนุนจากภาครัฐในรูปแบบหนึ่ง หากภาคเอกชนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่รัฐสนับสนุนจะจำหน่ายไฟฟ้าได้สูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้น หาก FIT เหมาะสมก็จะมีการลงทุนในพลังงานนั้นๆ ในทำนองเดียวกัน หากพลังงานทดแทนประเภทใด FIT ต่ำเกินไป ก็จะไม่มีผู้ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงประเภทนั้น ดังนั้น เป้าหมายของพลังงานทดแทนจึงอยู่ที่ค่าของ FIT จะมีเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์เท่านั้นที่รัฐอุดหนุนราคา FIT ไว้เพียงพอ ส่วนพลังงานทดแทนอื่นๆ จะถึงเป้าหมายหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับ FIT ของรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อจากนี้ไป กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนกับจุดยืนที่ไม่อาจแค่สนองนโยบาย วันนี้กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีสื่อพันธมิตรที่ให้พื้นที่พวกเราสะท้อนความจริงกว่า 6-7 สื่อ มีทั้งสิ่งพิมพ์และไอที จุดยืนของกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนบนเส้นทางสายวิกฤตอย่างในปัจจุบัน คงไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ของสมาชิกและผู้ประกอบการ แต่เป็นผลประโยชน์แห่งชาติ หมายรวมถึง ผลประโยชน์ของคนไทยทุกคน..... พลังงานไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่เป็นทั้งการลงทุน สาธารณูปโภค และเกมการเมืองในเวลาเดียวกัน